โรคปอดบวม คืออะไร?เป็นโรคที่มีการอักเสบของปอด ทำให้เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง จะทำให้ถุงลมปอดเต็มไปด้วยหนองหรือสารคัดหลั่ง ส่งผลให้การหายใจไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนลดลง นั่นเอง
สาเหตุ
เชื้อไวรัส เช่น RSV, ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
เชื้อแบคทีเรีย เช่น S.pneumoniae, Haemophilus influenza (Hip), Mycoplasma, E.coli เป็นต้น
เชื้อรา เช่น Chlamydia เป็นต้น
สารเคมี
อาการ
ช่วงแรกอาจไอแห้งๆ ต่อมาจะไอมีเสมหะและมักมีเสียงเสมหะในปอด
มีไข้สูง ตัวร้อน
หายใจหอบ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย
อาจมีอาการเจ็บหน้าอกบริเวณที่ปอดมีการอักเสบได้
การตรวจวินิจฉัย
แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายทั่วไป เช่น ฟังเสียงหายใจ เพื่อประเมินว่ามีเสียงเสมหะหรือสารคัดหลั่งในปอดหรือไม่
เอกซเรย์ปอด เพื่อดูว่ามีหนองหรือสิ่งคัดหลั่งอยู่ในถุงลมปอดหรือไม่
ตรวจเลือดดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดจะพบว่า มีเม็ดเลือดขาวขึ้นสูง ซึ่งจะบ่งบอกถึงภาวะติดเชื้อในร่างกาย
ตรวจเพาะเชื้อในเลือด เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ และถ้ามีเป็นเชื้อตัวใด เพื่อจะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง
ตรวจเสมหะเพื่อย้อมสีหรือเพาะเชื้อ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปอดอักเสบตามความเหมาะสมโดยแพทย์
การรักษา
ให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้แก้ปวด ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอละลายเสมหะหรือยาพ่นเพื่อทำให้ปอดขยายตัวและทำงานดีขึ้น เป็นต้น
ให้ยาปฏิชีวนะในรายที่พบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย ตามความเหมาะสมของชนิดเชื้อนั้น
ให้ยาต้านเชื้อไวรัสในรายที่เป็นปอดบวมจากเชื้อไข้หวัดใหญ่
ให้นอนพักมากๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ในรายที่ไข้สูงและอ่อนเพลียมากอาจได้รับสารละลายทางหลอดเลือดดำและนอนรักษาตัวในรพ.
การป้องกัน
ฉีดวัคซีนป้องกันโรค เช่น วัคซีนป้องกันเชื้อฮิบ (Hib), วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไอพีดีและวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ รักษาความสะอาดร่างกาย
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณ 8-10แก้ว
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรืออากาศไม่ถ่ายเท หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน
หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย