ผู้เขียน หัวข้อ: เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!  (อ่าน 5135 ครั้ง)

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
สร้างบ้านต้องล้อมรั้ว: ความจำเป็น หรือ เพียงแค่ตัวเลือก?
การสร้างบ้านสักหลังเป็นความฝันของใครหลายคน และหนึ่งในคำถามที่มักจะตามมาคือ "จำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านหรือไม่?" บทความนี้จะพาไปสำรวจเหตุผลเบื้องหลังการสร้างรั้วบ้าน ข้อดีข้อเสีย รวมถึงปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจ

ทำไมคนส่วนใหญ่นิยมล้อมรั้วบ้าน?
1. ความปลอดภัย: รั้วบ้านเป็นปราการด่านแรกที่ช่วยป้องกันการบุกรุกจากผู้ไม่หวังดี ทั้งยังช่วยจำกัดการเข้าถึงของสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็ก ทำให้สมาชิกในบ้านรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

2. ความเป็นส่วนตัว: รั้วบ้านช่วยสร้างขอบเขตและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ป้องกันสายตาจากภายนอก และลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ

3. ความสวยงามและมูลค่าเพิ่ม: รั้วบ้านที่ออกแบบอย่างสวยงามสามารถเสริมความโดดเด่นและเพิ่มมูลค่าให้กับตัวบ้านได้

4. ความชัดเจนของขอบเขตที่ดิน: รั้วบ้านช่วยกำหนดขอบเขตที่ดินให้ชัดเจน ป้องกันปัญหาการบุกรุกหรือข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ข้อควรพิจารณาในการสร้างรั้วบ้าน
1. งบประมาณ: รั้วบ้านมีราคาแตกต่างกันไปตามวัสดุ รูปแบบ และขนาด ควรกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ

2. วัสดุ: วัสดุที่นิยมใช้ทำรั้วบ้าน ได้แก่ เหล็ก อิฐ ปูน ไม้ หรือวัสดุผสม ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสไตล์บ้าน งบประมาณ และความต้องการด้านการดูแลรักษา

3. รูปแบบ: รั้วบ้านมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบทึบ แบบโปร่ง แบบเตี้ย แบบสูง หรือแบบผสม ควรเลือกรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความสวยงาม

4. กฎหมายและข้อบังคับ: ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรั้วบ้านในพื้นที่ของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในภายหลัง

แล้วจำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านไหม?
การล้อมรั้วบ้านไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นทางเลือกที่เจ้าของบ้านควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว งบประมาณ และสภาพแวดล้อมโดยรอบ หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนัก การไม่ล้อมรั้วบ้านอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น การล้อมรั้วบ้านก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

สรุป
การสร้างรั้วบ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความสวยงามของบ้าน หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะล้อมรั้วบ้านหรือไม่ ลองพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
## ก่อนสร้างบ้าน: เตรียมความพร้อมสู่บ้านในฝัน

การสร้างบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่และมีความสำคัญอย่างยิ่งในชีวิต ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือสร้างบ้านในฝันของคุณ มีสิ่งสำคัญหลายประการที่คุณควรเตรียมความพร้อม เพื่อให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
**1. สำรวจความต้องการและความฝัน:** เริ่มต้นด้วยการสำรวจความต้องการและความฝันของคุณเกี่ยวกับบ้านในอุดมคติ อยากได้บ้านสไตล์ไหน ขนาดเท่าไหร่ มีกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ มีพื้นที่ใช้สอยอย่างไรบ้าง คำนึงถึงจำนวนสมาชิกในครอบครัว ไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน เพื่อให้บ้านที่สร้างขึ้นตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
**2. กำหนดงบประมาณ:** การกำหนดงบประมาณที่ชัดเจนและสมจริงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในภายหลัง อย่าลืมเผื่องบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดด้วย
**3. เลือกทำเลที่ตั้ง:** ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย พิจารณาเลือกทำเลที่สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และมีสภาพแวดล้อมที่ดี
**4. ตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับ:** ก่อนสร้างบ้าน ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในพื้นที่นั้นๆ เช่น ข้อกำหนดเรื่องระยะร่น ข้อจำกัดความสูงของอาคาร และกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าการก่อสร้างของคุณเป็นไปตามกฎหมายและไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
**5. ศึกษาข้อมูลและหาแรงบันดาลใจ:** ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างบ้านจากแหล่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์ นิตยสาร หนังสือ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างบ้าน วัสดุที่ใช้ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การหาแรงบันดาลใจจากแบบบ้านต่างๆ จะช่วยให้คุณมีไอเดียในการออกแบบบ้านของคุณเองได้ดียิ่งขึ้น
**6. เลือกผู้เชี่ยวชาญ:** การเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณจะถูกสร้างขึ้นด้วยคุณภาพและมาตรฐานที่ดี พิจารณาเลือกสถาปนิก วิศวกร และผู้รับเหมาที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับและมีประสบการณ์ในการสร้างบ้านประเภทเดียวกับที่คุณต้องการ
**7. วางแผนการออกแบบ:** การวางแผนการออกแบบอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารความต้องการของคุณกับสถาปนิกได้อย่างชัดเจนและได้บ้านที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
**8. เตรียมเอกสาร:** เตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขออนุญาตก่อสร้าง เช่น โฉนดที่ดิน แบบแปลนบ้าน และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขออนุญาตก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น
**9. เตรียมใจและเตรียมเวลา:** การสร้างบ้านต้องใช้เวลาและความอดทน เตรียมใจรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง และเตรียมเวลาสำหรับการดูแลและตรวจสอบงานก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ
การเตรียมความพร้อมก่อนสร้างบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างบ้านในฝันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและเป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับคุณและครอบครัวได้อย่างแท้จริง

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด

สร้างบ้านต้องล้อมรั้ว: ความจำเป็น หรือ เพียงแค่ตัวเลือก?
การสร้างบ้านสักหลังเป็นความฝันของใครหลายคน และหนึ่งในคำถามที่มักจะตามมาคือ "จำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านหรือไม่?" บทความนี้จะพาไปสำรวจเหตุผลเบื้องหลังการสร้างรั้วบ้าน ข้อดีข้อเสีย รวมถึงปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจ

ทำไมคนส่วนใหญ่นิยมล้อมรั้วบ้าน?
1. ความปลอดภัย: รั้วบ้านเป็นปราการด่านแรกที่ช่วยป้องกันการบุกรุกจากผู้ไม่หวังดี ทั้งยังช่วยจำกัดการเข้าถึงของสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็ก ทำให้สมาชิกในบ้านรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

2. ความเป็นส่วนตัว: รั้วบ้านช่วยสร้างขอบเขตและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ป้องกันสายตาจากภายนอก และลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ

3. ความสวยงามและมูลค่าเพิ่ม: รั้วบ้านที่ออกแบบอย่างสวยงามสามารถเสริมความโดดเด่นและเพิ่มมูลค่าให้กับตัวบ้านได้

4. ความชัดเจนของขอบเขตที่ดิน: รั้วบ้านช่วยกำหนดขอบเขตที่ดินให้ชัดเจน ป้องกันปัญหาการบุกรุกหรือข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ข้อควรพิจารณาในการสร้างรั้วบ้าน
1. งบประมาณ: รั้วบ้านมีราคาแตกต่างกันไปตามวัสดุ รูปแบบ และขนาด ควรกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ

2. วัสดุ: วัสดุที่นิยมใช้ทำรั้วบ้าน ได้แก่ เหล็ก อิฐ ปูน ไม้ หรือวัสดุผสม ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสไตล์บ้าน งบประมาณ และความต้องการด้านการดูแลรักษา

3. รูปแบบ: รั้วบ้านมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบทึบ แบบโปร่ง แบบเตี้ย แบบสูง หรือแบบผสม ควรเลือกรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความสวยงาม

4. กฎหมายและข้อบังคับ: ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรั้วบ้านในพื้นที่ของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในภายหลัง

แล้วจำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านไหม?
การล้อมรั้วบ้านไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นทางเลือกที่เจ้าของบ้านควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว งบประมาณ และสภาพแวดล้อมโดยรอบ หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนัก การไม่ล้อมรั้วบ้านอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น การล้อมรั้วบ้านก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

สรุป
การสร้างรั้วบ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความสวยงามของบ้าน หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะล้อมรั้วบ้านหรือไม่ ลองพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด

สร้างบ้านต้องล้อมรั้ว: ความจำเป็น หรือ เพียงแค่ตัวเลือก?
การสร้างบ้านสักหลังเป็นความฝันของใครหลายคน และหนึ่งในคำถามที่มักจะตามมาคือ "จำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านหรือไม่?" บทความนี้จะพาไปสำรวจเหตุผลเบื้องหลังการสร้างรั้วบ้าน ข้อดีข้อเสีย รวมถึงปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจ

ทำไมคนส่วนใหญ่นิยมล้อมรั้วบ้าน?
1. ความปลอดภัย: รั้วบ้านเป็นปราการด่านแรกที่ช่วยป้องกันการบุกรุกจากผู้ไม่หวังดี ทั้งยังช่วยจำกัดการเข้าถึงของสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็ก ทำให้สมาชิกในบ้านรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

2. ความเป็นส่วนตัว: รั้วบ้านช่วยสร้างขอบเขตและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ป้องกันสายตาจากภายนอก และลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ

3. ความสวยงามและมูลค่าเพิ่ม: รั้วบ้านที่ออกแบบอย่างสวยงามสามารถเสริมความโดดเด่นและเพิ่มมูลค่าให้กับตัวบ้านได้

4. ความชัดเจนของขอบเขตที่ดิน: รั้วบ้านช่วยกำหนดขอบเขตที่ดินให้ชัดเจน ป้องกันปัญหาการบุกรุกหรือข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ข้อควรพิจารณาในการสร้างรั้วบ้าน
1. งบประมาณ: รั้วบ้านมีราคาแตกต่างกันไปตามวัสดุ รูปแบบ และขนาด ควรกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ

2. วัสดุ: วัสดุที่นิยมใช้ทำรั้วบ้าน ได้แก่ เหล็ก อิฐ ปูน ไม้ หรือวัสดุผสม ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสไตล์บ้าน งบประมาณ และความต้องการด้านการดูแลรักษา

3. รูปแบบ: รั้วบ้านมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบทึบ แบบโปร่ง แบบเตี้ย แบบสูง หรือแบบผสม ควรเลือกรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความสวยงาม

4. กฎหมายและข้อบังคับ: ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรั้วบ้านในพื้นที่ของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในภายหลัง

แล้วจำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านไหม?
การล้อมรั้วบ้านไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นทางเลือกที่เจ้าของบ้านควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว งบประมาณ และสภาพแวดล้อมโดยรอบ หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนัก การไม่ล้อมรั้วบ้านอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น การล้อมรั้วบ้านก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

สรุป
การสร้างรั้วบ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความสวยงามของบ้าน หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะล้อมรั้วบ้านหรือไม่ ลองพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรง สร้างรายได้งาม



เพื่อน ๆ รู้หรือไม่? หลังโควิด-19 เทรนด์สัตว์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะราคาตลาดของเนื้อสัตว์ที่เราบริโภคกันปกติ อย่างหมู ไก่ เนื้อวัว มีราคาสูงขึ้นจากการระบาดของโรคอหิวาต์ แอฟริกา ใน สุกร หรือ African Swine Fever(AFS) ที่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ตลาดต้องการเนื้อไก่ และเนื้อวัวจำนวนมากทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

 

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการให้มาเลี้ยงสุกรที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจ ควรรู้! ยังมีสัตว์เศรษฐกิจมาแรงอื่นๆ ในปี 2023 ที่สร้างรายได้มากกว่าสุกร มีอะไรบ้าง? เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้ครับ

ปูนา สัตว์เศรษฐกิจคู่บ้านคู่เมืองไทย เลี้ยงได้ทุกภาค
 
ทำไมปูนาถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ปูนา เป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองคนไทยมาอย่างยาว และพบได้ทั่วทุกภูมิภาคของไทย มักอาศัยอยู่ตามคันนา แต่ปัจจุบันปริมาณของปูนาลดลง จากการใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร ทำให้ปูนาขาดแคลนและมีราคาสูงอยู่ช่วงหนึ่ง จนต้องมีการทำฟาร์มไว้เพื่อจำหน่ายและกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของไทย

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงปูนา
โดยปกติทั่วไป ปูนาเป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อน หากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง จะเริ่มทำร้ายตัวเองด้วยการหักแขน หักขาตัวเองทิ้ง การเลี้ยงปูนาจึงต้องเลี้ยงในบ่อดินที่คล้ายคลึงกับสภาพแวดล้อมเดิม เพื่อคลายความเครียด และในบ่อดินยังมีแร่ธาตุช่วยให้ปูแข็งแรง สามารถฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ควรหมั่นเอาใจใส่ และสังเกตพฤติกรรมปูนาบ่อยๆ เพื่อคำนึงถึงสภาพแวดล้อม อาหาร อารมณ์ เพื่อให้ปูนาเจริญเติบโตได้ดีอยู่เสมอ

นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับอาหาร ซึ่งสามารถใช้อาหารเม็ดปลาดุก อาหารกบ หรือข้าวสวยเป็นอาหารมื้อหลัก งดให้อาหารที่มันๆ เพราะจะทำให้น้ำเสียงาน และเสริมด้วยอาหารเสริม เช่น แหนแดง จอก และสาหร่าย เป็นต้น

ราคาขายของปูนา
กิโลกรัมละ 120 บาทโดยประมาณ


กวางรูซ่า สัตว์เศรษฐกิจประโยชน์หลากหลาย
 
ทำไมกวางรูซ่าถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
กวางรูซ่า เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีประโยชน์หลากหลาย และสามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งเนื้อที่แสนอร่อยแถมยังไขมันต่ำ หนังที่เหมาะกับการทำเครื่องหนังและเครื่องประดับ เขากวางอ่อนที่เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นอาหารเสริมได้ ทำให้กวางรูซ่ากลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มาแรงของไทย เกษตรกรบางท่านสามารถสร้างรายได้สูงสุด 6,000,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงกวางรูซ่า
กวางรูซ่า เป็นสัตว์กินหญ้าเช่นเดียวกับวัว แต่ต่างกันตรงที่ กวางรูซ่าตัวเล็ก ใช้พื้นที่การเลี้ยงน้อยกว่า ต้านทานโรคได้ดี ไม่ป่วยง่าย และกินน้อยเพียงแค่ตัดหญ้าขนให้ทานก็สามารถเลี้ยงให้โตได้ เสริมด้วยแร่ธาตุ อาหารเสริมแบบเดียวกับวัวก็เพียงพอแล้ว งดการเสริมอาหารสำเร็จรูปเพราะจะทำให้กวางตัวอ้วนจนเกินไป เป็นอุปสรรคต่อการผสมพันธ์ุ เพียงแค่ปลูกหญ้าขนที่เจริญเติบโตง่ายและขึ้นโดยทั่วไปก็ให้โปรตีนที่เพียงพอต่อกวางได้แล้ว

ราคาขายของกวางรูซ่า
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 200-500 บาทโดยประมาณ, เขากวางอ่อน ราคา 5,000-10,000 บาทโดยประมาณ


จระเข้ สัตว์เศรษฐกิจสายแฟชั่น
 

ทำไมจระเข้ถึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
ทุกคนคนคุ้นชินกันอยู่นานหลายปีแล้วว่า จระเข้ เป็นสัตว์ที่กินได้ และหนังของมันก็เอาไปทำกระเป๋าได้ แต่ปี 2023 นี้ เนื้อจระเข้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากว่า ไขมันน้อย รสชาติดี และมีเนื้อสัมผัสคล้ายๆ กับอกไก่ ทำให้เนื้อจระเข้เป็นที่แนะนำและน่าสนใจเป็นพิเศษ อีกทั้ง ส่วนของหนังจระเข้ก็สามารถนำไปทำเครื่องหนังส่งออกต่างประเทศได้อย่างดี โดยจระเข้ที่นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจมีอยู่ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ จระเข้น้ำจืดหรือจระเข้พันธุ์ไทย และจระเข้น้ำเค็ม

เคล็ดลับวิธีการเลี้ยงจระเข้
การเลี้ยงจระเข้แน่นอนว่าควรจะมีบ่อเลี้ยงที่ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการหลุดลอดของจระเข้ออกสู่ธรรมชาติ ซึ่งมีความอันตรายสูง โดยพื้นที่รอบบ่อควรจะมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด ไม่พลุกพล่านจนเกินไป มีแสงแดดส่องถึง และมีอาหารที่เพียงพอต่อจระเข้ตลอดเวลา การให้อาหารจระเข้ควรให้ 2-3 วันต่อครั้งด้วยเนื้อไก่สดติดกระดูกสำหรับจระเข้อายุไม่เกิน 1 ปี แต่หากเป็นสัตว์ชนิดอื่นควรให้สำหรับจระเข้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีไปแล้ว

การเตรียมบ่อจระเข้ควรเป็นบ่อแถวคู่ลักษณะ บกครึ่งหนึ่ง และน้ำครึ่งหนึ่ง ความยาวประมาณ 1.80 เมตร กว้าง 1 เมตร สูง 1.50 เมตร และส่วนที่เป็นบกสูง 50 เมตร พร้อมขัดมันพื้นบ่อและรอบบ่อเพื่อป้องกันลูกจระเข้ปีน และวางท่อระบายน้ำสองอัน สำหรับใต้น้ำควรใช้ท่อพีวีซี่ 2.5 – 3 นิ้ว และท่อบนน้ำใช้ควบคุมประมาณน้ำไม่ให้มากเกินไป ป้องกันน้ำท่วมนั่นเอง

การเลี้ยงจระเข้นั้น แน่นอนว่ามีต้นทุนสูงเพราะเนื้อไก่สดมีราคาสูง แต่เกษตรกรที่ต้องการประหยัดต้นทุนสามารถเลี้ยงลูกกบไว้สำหรับเป็นอาหารจระเข้เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร และหากมีพื้นที่ก็ควรจะเลี้ยงกบเพาะพันธุ์ควบคู่ไว้เพื่อเป็นอาหารให้จระเข้ได้อีกด้วย

ราคาขายของจระเข้
ส่วนเนื้อกวาง ราคากิโลกรัมละ 180 บาทโดยประมาณ,  ส่วนบ้องตัน ราคา 240  บาทโดยประมาณ, จระเข้ทั้งตัวราคาอยู่ที่ 900-1,500 บาทโดยประมาณ

สรุป
ในปี 2023 นี้ สัตวเศรษฐกิจหลายชนิดไม่คุ้นหูคุ้นตาเรามาก่อน หรือบางตัวก็เคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่เรียกได้เลยว่า 4 สัตว์เศรษฐกิจมาแรงที่เรานะนำมาในวันนี้ ทั้งปูนา กวางรูซ่า จระเข้ และกระต่าย ต่างสร้างรายได้งามให้กับเกษตรกรได้อย่างแน่นอน หลายๆ ท่านคงได้ไอเดียในการทำปศุสัตว์ที่ตอบโจทย์ตลาด แต่อย่าลืมที่จะศึกษาเทรนด์ตลาด และอัพเดตข่าวสารความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอนะครับ

ที่มาhttps://vinemanfence.com/4-popular-livestocks-good-income/
https://www.technologychaoban.com/livestock-technology/article_247855
https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=317&s=tblheight
https://www.palangkaset.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2-1/
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_242362

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
## ก่อนสร้างบ้าน: เตรียมความพร้อมสู่บ้านในฝัน

การสร้างบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่และมีความสำคัญอย่างยิ่งในชีวิต ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือสร้างบ้านในฝันของคุณ มีสิ่งสำคัญหลายประการที่คุณควรเตรียมความพร้อม เพื่อให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
**1. สำรวจความต้องการและความฝัน:** เริ่มต้นด้วยการสำรวจความต้องการและความฝันของคุณเกี่ยวกับบ้านในอุดมคติ อยากได้บ้านสไตล์ไหน ขนาดเท่าไหร่ มีกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ มีพื้นที่ใช้สอยอย่างไรบ้าง คำนึงถึงจำนวนสมาชิกในครอบครัว ไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน เพื่อให้บ้านที่สร้างขึ้นตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
**2. กำหนดงบประมาณ:** การกำหนดงบประมาณที่ชัดเจนและสมจริงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในภายหลัง อย่าลืมเผื่องบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดด้วย
**3. เลือกทำเลที่ตั้ง:** ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย พิจารณาเลือกทำเลที่สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และมีสภาพแวดล้อมที่ดี
**4. ตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับ:** ก่อนสร้างบ้าน ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในพื้นที่นั้นๆ เช่น ข้อกำหนดเรื่องระยะร่น ข้อจำกัดความสูงของอาคาร และกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าการก่อสร้างของคุณเป็นไปตามกฎหมายและไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
**5. ศึกษาข้อมูลและหาแรงบันดาลใจ:** ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างบ้านจากแหล่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์ นิตยสาร หนังสือ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างบ้าน วัสดุที่ใช้ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การหาแรงบันดาลใจจากแบบบ้านต่างๆ จะช่วยให้คุณมีไอเดียในการออกแบบบ้านของคุณเองได้ดียิ่งขึ้น
**6. เลือกผู้เชี่ยวชาญ:** การเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณจะถูกสร้างขึ้นด้วยคุณภาพและมาตรฐานที่ดี พิจารณาเลือกสถาปนิก วิศวกร และผู้รับเหมาที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับและมีประสบการณ์ในการสร้างบ้านประเภทเดียวกับที่คุณต้องการ
**7. วางแผนการออกแบบ:** การวางแผนการออกแบบอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารความต้องการของคุณกับสถาปนิกได้อย่างชัดเจนและได้บ้านที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
**8. เตรียมเอกสาร:** เตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขออนุญาตก่อสร้าง เช่น โฉนดที่ดิน แบบแปลนบ้าน และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขออนุญาตก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น
**9. เตรียมใจและเตรียมเวลา:** การสร้างบ้านต้องใช้เวลาและความอดทน เตรียมใจรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง และเตรียมเวลาสำหรับการดูแลและตรวจสอบงานก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ
การเตรียมความพร้อมก่อนสร้างบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างบ้านในฝันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและเป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับคุณและครอบครัวได้อย่างแท้จริง

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!

รู้หรือไม่? เกษตรกรจำนวนมากขาดเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินที่ตัวเองใช้ทำมาหากิน และหลายคนกำลังเป็นข้อพิพาทที่ดินกับรัฐ บางกรณียืดเยื้อมาหลายสิบปี และถูกซ้ำเติมโดยนโยบายของรัฐ แม้เกษตรกรจะมีที่ดิน ส.ป.ก ก็ยังไม่มั่นคงในการถือครองเพราะห้ามเปลี่ยนมือซื้อขาย ทำให้เกษตรไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาที่ดินนั่นเอง

แต่มื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เห็นชอบหลักการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด ทำให้การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566 ได้รับความสนใจจากเกษตรเกษตรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่จำนวน 1,628,520 ราย ภายหลัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก. มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เเต่ที่เราจะรู้ว่าการเปลี่ยนโฉนดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง เราต้องมารู้กันก่อนว่า ส.ป.ก คืออะไร ส.ป.ก คือ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐทำการจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ทำกินของตนเอง หรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งทางรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ให้มีการใช้ทรัพยากรจากพื้นที่ ผลิตจำหน่ายให้เกิดผลผลิตที่ดี

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี
โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด
หากในกรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สปก. (หรือเป็นผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน สปก. นั้น) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน สปก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ระเบียบฯ การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถ และไม่นำที่ดินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ส.ป.ก. ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการโอนให้เป็นไปตามที่ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอน หรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อและการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 กำหนด
ห้ามมิให้ผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเปลี่ยนมือ สละสิทธิ หรือกระทำการอื่นใด เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับสิทธิในโฉนดเพื่อการเกษตรแทนตน ภายในสองปี นับแต่วันที่ออกโฉนดเพื่อการเกษตร เว้นแต่เป็นการจัดที่ดินแทนที่แก่คู่สมรส บุตร เครือญาติหรือทายาท

(2) ยินยอมทำสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจัดให้ โดยมีค่าชดเชยและต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
(3) ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนเป็นเหตุให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การประกอบเกษตรกรรม
(4) ไม่ขุดบ่อเพื่อการเกษตรกรรมเกินร้อยละห้าของเนื้อที่ที่ได้รับมอบ
(5) ไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ เว้นแต่การปลูกสร้างตามสมควรสำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยยุ้งฉาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนั้น
(6) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตที่ดินในที่ดินที่ได้รับมอบมิให้เกิดชำรุดเสียหายหรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม
(7) ไม่กระทำการใดๆ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่นและสภาพแวดล้อม
(8) ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งคำสั่งของเลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย
(9) ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมที่ทำกับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ดำเนินงานร่วมกับ ส.ป.ก

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2566
ดาวน์โหลดแอป “SmartLands” หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู “บอกดิน” และกดปุ่ม “แจ้งตำแหน่งที่ดิน”
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก “อื่นๆ” และกดปุ่ม “ส่ง”
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “SmartLands”
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้

สรุป
การเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ต้องเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องมา 10 ปี ไม่ปล่อยให้ที่ดิน รกร้างว่างเปล่า ต้องมีการทำเกษตร หรือล้อมรั้ว เเบ่งที่ไว้อย่างชัดเจน การที่ล้อมรั้วตาข่าย หรือ ล้อมรั้วลวดหนาม จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดขอบเขตของที่ดิน ไม่ให้เสียประโยชน์พื้นที่นั้นไป , ได้รับสิทธิ์ในระยะ 2 ปี, แต่ไม่สามารถซื้อขายที่ดินที่ได้รับโฉนดได้ภายใน 5 ปี, และกรณีจำเป็นในการกู้ยืมหรือขายที่ดินต้องผ่านธนาคารที่ดินที่จัดตั้งขึ้น เกษตรกรที่ยังไม่ถือ ส.ป.ก. สามารถได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หากใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปี, มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอม, เป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท, และสามารถเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ขอบคุณที่มาจาก https://www.ruataewada.com/change-alro-to-title-deed-how-and-check-right/

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด



ใช้ที่ดินเพื่อประกอบการเกษตร ปลูกแค่ 1 ไร่ก็ทำได้ จ่ายภาษีเพียง 0.01%
ประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ได้กำหนดอัตราขั้นต่ำของจำนวนไม้ต้น ไม้ผล ต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่ จึงจะสามารถเรียกว่าใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมได้และจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพียง 0.01% เท่านั้น แต่หากปล่อยให้รกร้างหรือใช้ประโยชน์ด้านอื่นจะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 0.30% ซึ่งมากกว่าภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรถึง 30 เท่า
หลายคนจึงหันมาเปลี่ยนที่ดินเปล่า เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ซึ่งที่ง่ายที่สุดและเห็นกันเกลื่อนตาคือการปลูกกล้วย ปลูกมะพร้าว แต่รู้หรือไม่ยังมีไม้ผลอีกหลายชนิดที่สามารถปลูกในที่ดินเพื่อประกอบการเกษตรได้

•อัปเดตอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
การใช้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามความหมายของคำว่า “ประกอบการเกษตร” ในระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค จำหน่าย หรือใช้งานในฟาร์ม แต่ไม่รวมถึงการทำการประมงและการทอผ้า การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรยังหมายความรวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ต่อเนื่องที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมนั้นด้วย

การกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ปีภาษี 2565-2566 โดยคงอัตราภาษีแบบเดิมเช่นเดียวกับปีภาษี 2563 และ 2564 มีสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ดินเพื่อการประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.01-0.1%
ที่อยู่อาศัย แบ่งเป็น
2.1 บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี มูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.03-0.1%
2.2 บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.02-0.1%
2.3 บ้านหลังอื่น ๆ อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.02-0.1%
การใช้ประโยชน์อื่น หรือใช้เชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านอาหาร พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.3-0.7%
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ อัตราภาษีที่ดินว่างเปล่าที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.3-0.7%
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!

รู้หรือไม่? เกษตรกรจำนวนมากขาดเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินที่ตัวเองใช้ทำมาหากิน และหลายคนกำลังเป็นข้อพิพาทที่ดินกับรัฐ บางกรณียืดเยื้อมาหลายสิบปี และถูกซ้ำเติมโดยนโยบายของรัฐ แม้เกษตรกรจะมีที่ดิน ส.ป.ก ก็ยังไม่มั่นคงในการถือครองเพราะห้ามเปลี่ยนมือซื้อขาย ทำให้เกษตรไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาที่ดินนั่นเอง

แต่มื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เห็นชอบหลักการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด ทำให้การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566 ได้รับความสนใจจากเกษตรเกษตรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่จำนวน 1,628,520 ราย ภายหลัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก. มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เเต่ที่เราจะรู้ว่าการเปลี่ยนโฉนดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง เราต้องมารู้กันก่อนว่า ส.ป.ก คืออะไร ส.ป.ก คือ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐทำการจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ทำกินของตนเอง หรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งทางรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ให้มีการใช้ทรัพยากรจากพื้นที่ ผลิตจำหน่ายให้เกิดผลผลิตที่ดี

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี
โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด
หากในกรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สปก. (หรือเป็นผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน สปก. นั้น) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน สปก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ระเบียบฯ การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถ และไม่นำที่ดินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ส.ป.ก. ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการโอนให้เป็นไปตามที่ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอน หรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อและการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 กำหนด
ห้ามมิให้ผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเปลี่ยนมือ สละสิทธิ หรือกระทำการอื่นใด เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับสิทธิในโฉนดเพื่อการเกษตรแทนตน ภายในสองปี นับแต่วันที่ออกโฉนดเพื่อการเกษตร เว้นแต่เป็นการจัดที่ดินแทนที่แก่คู่สมรส บุตร เครือญาติหรือทายาท

(2) ยินยอมทำสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจัดให้ โดยมีค่าชดเชยและต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
(3) ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนเป็นเหตุให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การประกอบเกษตรกรรม
(4) ไม่ขุดบ่อเพื่อการเกษตรกรรมเกินร้อยละห้าของเนื้อที่ที่ได้รับมอบ
(5) ไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ เว้นแต่การปลูกสร้างตามสมควรสำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยยุ้งฉาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนั้น
(6) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตที่ดินในที่ดินที่ได้รับมอบมิให้เกิดชำรุดเสียหายหรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม
(7) ไม่กระทำการใดๆ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่นและสภาพแวดล้อม
(8) ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งคำสั่งของเลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย
(9) ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมที่ทำกับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ดำเนินงานร่วมกับ ส.ป.ก

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2566
ดาวน์โหลดแอป “SmartLands” หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู “บอกดิน” และกดปุ่ม “แจ้งตำแหน่งที่ดิน”
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก “อื่นๆ” และกดปุ่ม “ส่ง”
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “SmartLands”
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้

สรุป
การเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ต้องเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องมา 10 ปี ไม่ปล่อยให้ที่ดิน รกร้างว่างเปล่า ต้องมีการทำเกษตร หรือล้อมรั้ว เเบ่งที่ไว้อย่างชัดเจน การที่ล้อมรั้วตาข่าย หรือ ล้อมรั้วลวดหนาม จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดขอบเขตของที่ดิน ไม่ให้เสียประโยชน์พื้นที่นั้นไป , ได้รับสิทธิ์ในระยะ 2 ปี, แต่ไม่สามารถซื้อขายที่ดินที่ได้รับโฉนดได้ภายใน 5 ปี, และกรณีจำเป็นในการกู้ยืมหรือขายที่ดินต้องผ่านธนาคารที่ดินที่จัดตั้งขึ้น เกษตรกรที่ยังไม่ถือ ส.ป.ก. สามารถได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หากใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปี, มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอม, เป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท, และสามารถเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ขอบคุณที่มาจาก https://www.ruataewada.com/change-alro-to-title-deed-how-and-check-right/

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด

## ก่อนสร้างบ้าน: เตรียมความพร้อมสู่บ้านในฝัน

การสร้างบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่และมีความสำคัญอย่างยิ่งในชีวิต ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือสร้างบ้านในฝันของคุณ มีสิ่งสำคัญหลายประการที่คุณควรเตรียมความพร้อม เพื่อให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
**1. สำรวจความต้องการและความฝัน:** เริ่มต้นด้วยการสำรวจความต้องการและความฝันของคุณเกี่ยวกับบ้านในอุดมคติ อยากได้บ้านสไตล์ไหน ขนาดเท่าไหร่ มีกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ มีพื้นที่ใช้สอยอย่างไรบ้าง คำนึงถึงจำนวนสมาชิกในครอบครัว ไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน เพื่อให้บ้านที่สร้างขึ้นตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
**2. กำหนดงบประมาณ:** การกำหนดงบประมาณที่ชัดเจนและสมจริงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในภายหลัง อย่าลืมเผื่องบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดด้วย
**3. เลือกทำเลที่ตั้ง:** ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย พิจารณาเลือกทำเลที่สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และมีสภาพแวดล้อมที่ดี
**4. ตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับ:** ก่อนสร้างบ้าน ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในพื้นที่นั้นๆ เช่น ข้อกำหนดเรื่องระยะร่น ข้อจำกัดความสูงของอาคาร และกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าการก่อสร้างของคุณเป็นไปตามกฎหมายและไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
**5. ศึกษาข้อมูลและหาแรงบันดาลใจ:** ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างบ้านจากแหล่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์ นิตยสาร หนังสือ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างบ้าน วัสดุที่ใช้ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ การหาแรงบันดาลใจจากแบบบ้านต่างๆ จะช่วยให้คุณมีไอเดียในการออกแบบบ้านของคุณเองได้ดียิ่งขึ้น
**6. เลือกผู้เชี่ยวชาญ:** การเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณจะถูกสร้างขึ้นด้วยคุณภาพและมาตรฐานที่ดี พิจารณาเลือกสถาปนิก วิศวกร และผู้รับเหมาที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับและมีประสบการณ์ในการสร้างบ้านประเภทเดียวกับที่คุณต้องการ
**7. วางแผนการออกแบบ:** การวางแผนการออกแบบอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารความต้องการของคุณกับสถาปนิกได้อย่างชัดเจนและได้บ้านที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
**8. เตรียมเอกสาร:** เตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขออนุญาตก่อสร้าง เช่น โฉนดที่ดิน แบบแปลนบ้าน และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขออนุญาตก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น
**9. เตรียมใจและเตรียมเวลา:** การสร้างบ้านต้องใช้เวลาและความอดทน เตรียมใจรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง และเตรียมเวลาสำหรับการดูแลและตรวจสอบงานก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ
การเตรียมความพร้อมก่อนสร้างบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างบ้านในฝันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและเป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับคุณและครอบครัวได้อย่างแท้จริง

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงปลานิล ปลาเศรษฐกิจที่เลี้ยงง่าย รายได้งาม**

ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีผลผลิตต่อปีเฉลี่ย 200,000-250,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าทางการผลิตกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มสัตว์น้ำจืดทั้งหมด ปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ จึงเหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นอาชีพหรือเพื่อบริโภคในครอบครัว

**วิธีการเลี้ยงปลานิล**

การเลี้ยงปลานิลสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การเลี้ยงในบ่อดิน** เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด สามารถทำได้ในพื้นที่ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก บ่อดินที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรมีขนาดกว้างอย่างน้อย 1 เมตร และลึกอย่างน้อย 2 เมตร บ่อดินควรระบายน้ำได้ดี เพื่อป้องกันการสะสมของตะกอน
* **การเลี้ยงในกระชัง** เป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดพื้นที่ สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อน้ำธรรมชาติและบ่อน้ำขุด กระชังที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรมีขนาดกว้างอย่างน้อย 2 เมตร และลึกอย่างน้อย 1 เมตร
* **การเลี้ยงในระบบปิด** เป็นวิธีที่ทันสมัยและสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ง่าย ระบบปิดที่ใช้เลี้ยงปลานิล ได้แก่ ระบบบ่อกรอง ระบบบ่อวนน้ำ ระบบบ่อไหลเวียน เป็นต้น

**ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลานิล**

ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลานิล ได้แก่

* **พันธุ์ปลา** ควรเลือกพันธุ์ปลานิลที่แข็งแรง ทนทานต่อโรคภัยไข้เจ็บ
* **น้ำ** น้ำที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรสะอาด มีปริมาณออกซิเจนเพียงพอ
* **อาหาร** ควรให้อาหารปลานิลอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ
* **การจัดการโรคและศัตรูพืช** ควรหมั่นตรวจดูปลาเป็นประจำ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช

**การเก็บเกี่ยวปลานิล**

ปลานิลสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 6-7 เดือน หรือเมื่อมีน้ำหนักประมาณ 500-700 กรัม ปลานิลสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ปลานิลทอด ปลานิลผัดฉ่า ปลานิลต้มยำ เป็นต้น

**ข้อดีของการเลี้ยงปลานิล**

การเลี้ยงปลานิลมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดี**
* **เป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก**
* **เป็นอาชีพที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัว**
* **เป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มาก**

**สรุป**

การเลี้ยงปลานิลเป็นอาชีพที่น่าสนใจและสามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกร ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงปลานิลเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบอาชีพหรือเพื่อบริโภคในครอบครัว

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด

ลวดหนาม มีกี่ประเภท

ลวดหนามมี 2 แบบ
ลวดหนาม ที่เราพอจะนึกออกและเคยเห็น มีอยู่ 2 ประเภทที่เห็นได้ชัดๆ คือ

ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามหีบเพลง
1. ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามประเภทนี้ก็คือลวดหนามล้อมที่ดิน ล้อมบ้าน ล้อมส้วน ล้อมที่ดินทั่วไปของเรานั่นเอง โดยมากจะแบ่ง ตามลักษณะของปมหนาม หรือ รูปแบบวิธี หรือ คุณภาพการพันนั่นเอง

  1.1 ลักษณะของหนามปมลวดหนาม
ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันปมหนามอยู่ 2 แบบ คือ

1.1.1 การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)
เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)
ลวดหนามทั่วไป

ลวดหนามประเภทนี้เราผมเห็นกันได้มากตามพื้นที่ทั่วไป เส้นลวดมักมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับลวดหนามประเภทอื่น แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีข้อดีคือเป็นลวดหนามที่ราคาถูก มักขายเป็น ชั่งกิโลขาย ข้อเสียหนึ่ง คือเมื่อเป็นการชั่งกิโลขาย 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้างจะ
 ทำให้ความยาวลวดแต่ละม้วน จะไม่เท่ากันเป็นเหตุผลให้การทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากการที่ต้องทำการต่อลวดหลายรอบ

อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอกับการล้อมรั้วลวดหนามคือ ขึ้นสนิมง่าย เพราะลวดหนามทั่วไป จะเป็นการชุบแบบไฟฟ้า (Electroplating) ซึ่งการชุบซิงค์แบบนี้ปริมาณซิงค์ที่ชุบค่อนข้างที่บางมาก ๆ ทำให้อายุการใช้งานของลวดหนามทั่วไปเกิดสนิมเร็ว ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
เริ่มขึ้นสนิมแล้ว หรือจะเป็นปัญหาล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปจะขาดง่าย  ขึงไม่ตึง หย่อน  รวมถึงตัวเกลียวหนาม ที่ถักมาไม่แน่นทำให้เป็นสาเหตุของลวดหนามไม่ตึง และหย่อนง่าย ซึ่งถ้าสังเกตการล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปที่ติดตั้งตามท้องตลาด ติดตั้งไปได้ 1-2 เดือน รั้วลวดหนามทั่วไปจะเริ่มหย่อนเป็นท้องช้าง ไม่สวยงาม
หรือเห็นรั้วลวดหนามขาดเป็นบางช่วง  ทำให้เปลืองงบประมาณในการซื้อลวดหนามมาติดตั้งใหม่ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าแรง

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
**ดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอ**

สวนหลังบ้านเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

**1. รู้จักเครื่องมือและเลือกใช้ให้เหมาะสม**

เครื่องมือสำหรับดูแลสวนหลังบ้านมีหลายชนิด เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่ง จอบและเสียม ถังรดน้ำ เป็นต้น ควรเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำ เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่งสำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ จอบและเสียมสำหรับพรวนดิน ถังรดน้ำสำหรับรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น

**2. รดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ**

ปริมาณน้ำที่ต้นไม้ต้องการขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ สภาพอากาศ และขนาดของต้นไม้ โดยทั่วไปควรรดน้ำต้นไม้วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น

**3. ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นไม้**

ปุ๋ยช่วยบำรุงต้นไม้ให้เจริญเติบโตและแข็งแรง ควรใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้อย่างน้อยเดือนละครั้ง เลือกใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับชนิดของต้นไม้

**4. ตัดแต่งกิ่งไม้อย่างสม่ำเสมอ**

การตัดแต่งกิ่งไม้ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างสมดุล ตัดแต่งกิ่งไม้ที่เป็นโรคหรือแห้งตายออก และตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ในรูปทรงที่ต้องการ

**5. กำจัดวัชพืช**

วัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากต้นไม้ ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้มือถอนหรือใช้เครื่องตัดหญ้า

**6. ทำความสะอาดสวนหลังบ้าน**

ทำความสะอาดสวนหลังบ้านเป็นประจำ เก็บกวาดเศษใบไม้และเศษขยะต่างๆ ออก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง

**7. ป้องกันโรคและแมลง**

โรคและแมลงเป็นศัตรูของต้นไม้ ควรหมั่นสังเกตต้นไม้ หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา

**8. ตกแต่งสวนหลังบ้าน**

การตกแต่งสวนหลังบ้านช่วยให้สวนหลังบ้านสวยงามและน่าพักผ่อน สามารถเลือกตกแต่งสวนหลังบ้านได้ตามสไตล์ที่ชอบ เช่น ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ปูสนามหญ้า ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับนั่งพักผ่อน เป็นต้น

การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจและดูแลอย่างสม่ำเสมอ สวนหลังบ้านก็จะเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนามรั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด
**ทำสวนปลูกผัก ความสุขง่ายๆ ใกล้ตัว**

การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ผู้คนหันมาสนใจปลูกผักเองมากขึ้น เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักและได้ผักสดๆ ปลอดสารพิษมารับประทาน อีกทั้งการปลูกผักยังเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจอีกด้วย

**ประโยชน์ของการปลูกผัก**

การปลูกผักมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **ได้ผักสดๆ ปลอดสารพิษมารับประทาน** ผักที่ปลูกเองนั้นไม่มีสารเคมีตกค้าง จึงปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่าผักที่ซื้อจากตลาด
* **ช่วยลดค่าใช้จ่าย** การปลูกผักเองนั้นสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักได้ โดยเฉพาะผักที่มีราคาแพง
* **ได้ออกกำลังกาย** การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกาย จึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
* **เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ** การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายความเครียด

**วิธีการทำสวนปลูกผัก**

การทำสวนปลูกผักสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. **เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม** พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
2. **เตรียมดิน** ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
3. **เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม** เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
4. **หว่านหรือปลูกเมล็ด** หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
5. **รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ** รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช

**ผักที่ปลูกง่าย**

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

**เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก**

* ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
* ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
* ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
* ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
* ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา

การทำสวนปลูกผักเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 934
    • ดูรายละเอียด

เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!

รู้หรือไม่? เกษตรกรจำนวนมากขาดเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินที่ตัวเองใช้ทำมาหากิน และหลายคนกำลังเป็นข้อพิพาทที่ดินกับรัฐ บางกรณียืดเยื้อมาหลายสิบปี และถูกซ้ำเติมโดยนโยบายของรัฐ แม้เกษตรกรจะมีที่ดิน ส.ป.ก ก็ยังไม่มั่นคงในการถือครองเพราะห้ามเปลี่ยนมือซื้อขาย ทำให้เกษตรไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาที่ดินนั่นเอง

แต่มื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เห็นชอบหลักการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด ทำให้การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566 ได้รับความสนใจจากเกษตรเกษตรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่จำนวน 1,628,520 ราย ภายหลัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก. มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เเต่ที่เราจะรู้ว่าการเปลี่ยนโฉนดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง เราต้องมารู้กันก่อนว่า ส.ป.ก คืออะไร ส.ป.ก คือ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐทำการจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ทำกินของตนเอง หรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งทางรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ให้มีการใช้ทรัพยากรจากพื้นที่ ผลิตจำหน่ายให้เกิดผลผลิตที่ดี

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี
โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด
หากในกรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สปก. (หรือเป็นผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน สปก. นั้น) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน สปก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ระเบียบฯ การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถ และไม่นำที่ดินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ส.ป.ก. ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการโอนให้เป็นไปตามที่ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอน หรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อและการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 กำหนด
ห้ามมิให้ผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเปลี่ยนมือ สละสิทธิ หรือกระทำการอื่นใด เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับสิทธิในโฉนดเพื่อการเกษตรแทนตน ภายในสองปี นับแต่วันที่ออกโฉนดเพื่อการเกษตร เว้นแต่เป็นการจัดที่ดินแทนที่แก่คู่สมรส บุตร เครือญาติหรือทายาท

(2) ยินยอมทำสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจัดให้ โดยมีค่าชดเชยและต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
(3) ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนเป็นเหตุให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การประกอบเกษตรกรรม
(4) ไม่ขุดบ่อเพื่อการเกษตรกรรมเกินร้อยละห้าของเนื้อที่ที่ได้รับมอบ
(5) ไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ เว้นแต่การปลูกสร้างตามสมควรสำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยยุ้งฉาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนั้น
(6) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตที่ดินในที่ดินที่ได้รับมอบมิให้เกิดชำรุดเสียหายหรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม
(7) ไม่กระทำการใดๆ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่นและสภาพแวดล้อม
(8) ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งคำสั่งของเลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย
(9) ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมที่ทำกับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ดำเนินงานร่วมกับ ส.ป.ก

วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2566
ดาวน์โหลดแอป “SmartLands” หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
เลือกเมนู “บอกดิน” และกดปุ่ม “แจ้งตำแหน่งที่ดิน”
รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก “อื่นๆ” และกดปุ่ม “ส่ง”
รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “SmartLands”
สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้

สรุป
การเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ต้องเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องมา 10 ปี ไม่ปล่อยให้ที่ดิน รกร้างว่างเปล่า ต้องมีการทำเกษตร หรือล้อมรั้ว เเบ่งที่ไว้อย่างชัดเจน การที่ล้อมรั้วตาข่าย หรือ ล้อมรั้วลวดหนาม จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดขอบเขตของที่ดิน ไม่ให้เสียประโยชน์พื้นที่นั้นไป , ได้รับสิทธิ์ในระยะ 2 ปี, แต่ไม่สามารถซื้อขายที่ดินที่ได้รับโฉนดได้ภายใน 5 ปี, และกรณีจำเป็นในการกู้ยืมหรือขายที่ดินต้องผ่านธนาคารที่ดินที่จัดตั้งขึ้น เกษตรกรที่ยังไม่ถือ ส.ป.ก. สามารถได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หากใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปี, มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอม, เป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท, และสามารถเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

ขอบคุณที่มาจาก https://www.ruataewada.com/change-alro-to-title-deed-how-and-check-right/

 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google