รวมฟิลเลอร์ 3 แบรนด์ยอดนิยม Juvederm, Restylane และ Ultra V Hyal Filler แต่ละตัวเหมาะกับฉีดจุดไหน ?ถ้าพูดถึง
ฟิลเลอร์เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าเป็นตัวช่วยยอดฮิตที่ช่วยเติมเต็มใบหน้า ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าของเราให้ดูสวยเป๊ะได้แบบเป็นธรรมชาติ แต่พอไปหาข้อมูลก็เจอปัญหาว่า ฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อมาก จนไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดตัวไหนดี ?
ซึ่งแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน บางตัวก็มีเนื้อที่นิ่ม ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ บางตัวก็เนื้อแน่น ปั้นทรงได้เป๊ะ และที่สำคัญแต่ละจุดบนใบหน้าก็ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่ต่างกัน วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำ 3 แบรนด์ฟิลเลอร์ยอดนิยม อย่าง Juvederm, Restylane และ Ultra V Hyal Filler พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่า แต่ละตัวเหมาะกับฉีดตรงไหน? เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกฟิลเลอร์ได้ง่ายขึ้น!
Juvederm ฟิลเลอร์ระดับพรีเมียมจากอเมริกา ผลิตโดย Allergan ที่ได้รับการรองรับมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย. ไทย, US FDA และ EDQM ยุโรป จุดเด่นของ Juvederm คือมีเทคโนโลยี Vycross Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความเรียบเนียน กระจายตัวดี และติดทนได้นานอีกด้วย มีฟิลเลอร์จากแบรนด์ Juvederm มาแนะนำทั้งหมด 5 รุ่น ดังนี้!
1.Volbella คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่สุด ไม่จับตัวเป็นก้อน
เหมาะกับ: ฉีดริ้วรอยชั้นตื้น ใต้ตา ปาก
2.Volift : คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ละเอียด เรียบเนียน
เหมาะกับ: ผิวบาง ใช้เติมร่องแก้ม และใต้ตา แก้มตอบ ปาก
3.Volite คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลขนาดเล็ก
เหมาะกับ: เติมผิวชั้นตื้น และใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้น
4.Voluma : คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง และฟู มีความยืดหยุ่น โมเลกุลขนาดใหญ่
เหมาะกับ: เติมร่องลึกเช่น แก้ม คาง ขมับ
5.Volux : คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่สุด มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้สวย
เหมาะกับ: เติมคาง ขมับ และร่องลึก
Restylane ฟิลเลอร์จากสวีเดน ที่ฮิตมากกว่า 25 ปี! ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มาพร้อมเทคโนโลยี NASHA และ OBT Technology ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ และยังได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย. ไทย มีฟิลเลอร์จากแบรนด์ Restylane มาแนะนำทั้งหมด 7 รุ่น ดังนี้!
1. KYSSE คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว
เหมาะกับ: เติมริมฝีปากโดยเฉพาะ
2. Vital Light คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลขนาดเล็ก มีความนิ่ม
เหมาะกับ: เติมใต้ตา และผิวชั้นตื้น
3. Vital คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย
เหมาะกับ: เติมหน้าผาก และริ้วรอยตื้น
4. Volyme คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม
เหมาะกับ: เติมขมับ แก้ม ร่องแก้ม
5. Defyne คุณสมบัติ: เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง
เหมาะกับ: เติมร่องแก้ม มุมปาก ร่องริ้วรอยจากการยิ้ม
6. Restylane Classic คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อแข็งปานกลาง โมเลกุลขนาดใหญ่
เหมาะกับ: เติมร่องตื้น - ลึก
7. Refyne คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อแข็งปานกลาง ยืดหยุ่น
เหมาะกับ: สำหรับผิวบาง เติมเต็มริ้วรอยต่างๆ
8. Lyft คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความแน่น คงรูปได้ดี
เหมาะกับ: เติมคาง และขมับ
Ultra V Hyal Fillerฟิลเลอร์น้องใหม่จากเกาหลี ที่กำลังมาแรง Ultra V Hyal Filler เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้ R Square Technology ผสมผสานฟิลเลอร์แบบ Monophasic และ Biphasic ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความนุ่ม ฉีดง่าย ไม่เป็นก้อน และเจ็บน้อย จุดเด่นคือมี สิทธิบัตร Multi Layered Phasic Filler ที่ช่วยลดความเสี่ยงของอาการบวมหลังฉีดอีกด้วย มีฟิลเลอร์จากแบรนด์ Ultra V Hyal Filler มาแนะนำทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้!
1. Ultra V Hyal Filler รุ่น Hyal Fineคุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อเจลบางเบา
เหมาะกับ: เติมริ้วรอยตื้น ๆ เช่น หางตา และปาก
2. Ultra V Hyal Filler รุ่น Hyal Mediumคุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อเจลมีความคงตัว แข็งปานกลาง
เหมาะกับ: เพิ่มความอวบอิ่มของผิว เช่น เติมร่องแก้ม หน้าแก้ม หน้าผาก
3. Ultra V Hyal Filler รุ่น Hyal Hardคุณสมบัติ: ฟิลเลอร์เนื้อเจลแข็งที่สุดใน 3 รุ่น
เหมาะกับ: การขึ้นรูปและแก้ไขปัญหาในชั้นลึก เช่น ร่องลึก ร่องน้ำหมาก ใต้ตา คาง ขมับ
อย่างไรก็ตาม
ฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ไม่ใช่ว่าทุกตัวจะเหมาะกับใบหน้าของทุก ๆ คน การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ชื่อแบรนด์เท่านั้น แต่ต้องดูด้วยว่า เราจะฉีดตรงไหน ? ต้องการเนื้อฟิลเลอร์แบบไหน ? และอยากแก้ปัญหาอะไร ? เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สวยเข้ากับรูปหน้า และตอบโจทย์กับเรามากที่สุด!