เมื่อ
ทารกท้องเสีย ถือเป็นภาวะที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก เพราะอาการนี้อาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับทารกและเด็กเล็ก การทำความเข้าใจสาเหตุ สังเกตอาการ และรู้วิธีรับมือที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อาการท้องร่วงในเด็กเล็กมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต บางครั้งอาจเกิดจากการแพ้อาหาร หรือแพ้นมบางชนิดก็ได้เช่นกัน
สิ่งที่บ่งชี้ว่าลูกน้อยมีอาการท้องร่วงคือ การที่ลูกถ่ายเหลวกว่าปกติ มีจำนวนครั้งในการถ่ายที่ถี่ขึ้น และอาจมีลักษณะอุจจาระที่เปลี่ยนไป เช่น มีมูกเลือดปน หรือมีกลิ่นผิดปกติ นอกจากการถ่ายเหลวแล้ว ลูกอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ อาเจียน ปวดท้อง งอแง หรือซึมลง หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกมีอายุน้อยกว่า 6 เดือน หรือมีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง กระหายน้ำจัด ไม่ปัสสาวะ ผิวหนังเหี่ยวย่น หรือร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เบื้องต้นคือ การให้ลูกดื่มน้ำเกลือแร่สำหรับเด็ก (ORS) เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย การให้นมแม่ต่อไปยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะนมแม่มีภูมิคุ้มกันที่ช่วยปกป้องลูกจากเชื้อโรคต่าง ๆ หากลูกดื่มนมผง ควรปรึกษาแพทย์เรื่องการเปลี่ยนสูตรนมชั่วคราว หรือการให้นมผงสำหรับทารกที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย การดูแลความสะอาดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนและหลังสัมผัสตัวลูก และทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้กับลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
นอกจากนี้ การสังเกตและจดบันทึกจำนวนครั้งและลักษณะการถ่ายของลูก อาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นร่วมด้วย รวมถึงปริมาณน้ำที่ลูกดื่มและปัสสาวะ จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมากในการวินิจฉัยและรักษาของแพทย์ การป้องกันอาการท้องร่วงที่ดีที่สุดคือ การให้ลูกดื่มนมแม่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ การดูแลสุขอนามัยที่ดี การล้างมือบ่อย ๆ และการฉีดวัคซีนป้องกันโรตาไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการท้องร่วงในเด็กเล็ก
การรับมือกับอาการ ท้องเสีย ในลูกน้อยต้องอาศัยความใจเย็นและการสังเกตอย่างใกล้ชิด หากคุณแม่พบว่าลูกมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของเจ้าตัวน้อย